อิทธิพลของวงการไซไฟ (Sci-Fi) ต่อวิทยาศาสตร์มีความเชื่อมโยงกันอยู่เสมอ ตั้งแต่ในยุคที่มนุษย์เริ่มมองท้องฟ้าและตั้งคำถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่มนุษย์จะเดินทางไปสำรวจหรือตั้งถิ่นฐานบนพื้นที่ที่ห่างออกไปบนดาวเคราะห์ดวงอื่น
จนกระทั่งปัจจุบัน เราได้เห็นไซไฟหลากหลายรูปแบบตั้งแต่หนังสือ ภาพยนตร์ ซีรีส์ ที่ไม่ได้แค่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนธรรมดาวาดฝันจินตนาการว่าได้ขึ้นไปสำรวจดวงดาว แต่นักสำรวจดวงดาวจริง ๆ อย่างนักบินอวกาศก็อาจมีหนังสือเล่มโปรดเป็นนิยายไซไฟเช่นกัน
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2021 เมื่อนักบินอวกาศโทมัส เปสเก (Thomas Pesquet) จากองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ได้โพสต์ภาพลงบนโซเชียลมีเดียว ว่าเขากำลังอ่านหนังสือนิยายดูน (Dune) ที่เขียนโดยแฟรงค์ เฮอเบิร์ต (Frank Herbert) ในโมดูลคูโปลา (Cupola) ของสถานีอวกาศนานชาติ โดยมีพื้นหลังเป็นโลกทั้งใบ
โทมัส เปสเก เดินทางขึ้นสู่อวกาศในเดือนเมษายน 2021 ในฐานะลูกเรือกลุ่มที่ 65 ของสถานีอวกาศนานาชาติบนยานอวกาศ Dragon ของบริษัท SpaceX ซึ่งนักบินอวกาศจะได้รับอนุญาตให้สามารถนำของใช้ส่วนตัว เช่น หนังสือ หรืออาหารที่ตัวเองชื่นชอบติดตัวไปได้จำนวนหนึ่ง และหนึ่งในหนังสือที่เปสเกเลือกนำไปด้วยก็คือนิยายดูน
ดูนถูกเขียนขึ้นในปี 1965 ซึ่งถือว่าอยู่ในยุคทองของไซไฟ อย่างไรก็ตาม ดูนเลือกที่จะเล่าเรื่องในมิติที่แตกต่างออกไปในลักษณะนิยายเชิงการเมือง ที่มีดาวอาราคิส (Arakis) เป็นสถานที่ดำเนินเรื่องหลัก ตัวนิยายได้รับอิทธิพลจากดินแดนทะเลทรายและวัฒนธรรมอิสลาม บอกเล่าผ่านมหากาพย์การแย่งชิงทรัพยากรบนดาวที่ถูกเรียกว่า “เครื่องเทศ” ซึ่งนับว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับนิยายไซไฟแนวอวกาศในยุคนั้นมาก จนกระทั่งได้รับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง และในปี 2021 ที่เปสเกนำหนังสือดูนขึ้นไป ก็เป็นช่วงเดียวกับที่มีการฉายภาพยนตร์ดูนฉบับปี 2021 ด้วยเช่นกัน
เปสเก กล่าวว่า เขาอ่านดูนมาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น และเลือกนำดูนติดตัวขึ้นมาอ่านบนอวกาศด้วยเช่นกัน โดยสิ่งนี้เป็นภาพสะท้อนของความเชื่อมโยงระหว่างอวกาศกับกระแสนิยมไซไฟ ที่มีอิทธิพลต่อกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฟังรายการได้ทาง
